ครอบครัวบำเพ็ญ

 

                  ในธรรมกาลยุคขาวเรามักกล่าวถึงการบำเพ็ญควบคู่กันทั้งทางโลกและทางธรรม ใช่หรือไม่?? ในทางธรรม ศิษย์น้องทั้งหลายมีความมุ่งมั่นทุ่มเทจึงทำออกมาได้อย่างสมบูรณ์และดีเยี่ยม แต่เหตุไฉนในทางโลกยังไม่เข้าตากรรมการ ในเมื่อพูดถึงทางโลกก็หนีไม่พ้นเรื่องในครอบครัว พวกเจ้าต่างก็มีพ่อแม่ พวกเจ้าเข้าใจความกตัญญูเป็นอย่างดี แต่มีสักกี่คนที่สามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันอย่างจริงๆจังๆบ้าง มีคำพูดหนึ่งกล่าวว่า “คนเป็นพ่อแม่ต้องตั้งมั่นอยู่ในความรักความเมตตา คนเป็นลูกต้องตั้งมั่นอยู่ในความกตัญญูกตเวทิตา” ในเมื่อต้องตั้งมั่นอยู่ในความกตัญญู เห็นถึงความสำคัญของความsunbrightกตัญญูแล้วจะแสดงออกมาได้อย่างไร ยกตัวอย่างชีวิตประจำวัน พ่อแม่ไม่ใช่พวกตระเวณหากินแต่เป็นพุทธะเดินดิน กลับมีใครบ้างคนจัดการให้พ่อแม่ย้ายไปโน่นทีมานี่ทีวันที่ 1-10 เอาไปอยู่บ้านพี่คนโต วันที่ 11-20 เอาไปอยู่บ้านพี่คนรอง วันที่ 21-30 เอาไปอยู่บ้านพักคนชรา….แล้ววันสุดท้ายพ่อแม่จะไปอยู่ไหน??? ไม่มีใครรับผิดชอบ วันนี้พวกเจ้ามาบำเพ็ญปฏิบัติธรรม จึงรู้ว่าความกตัญญูเป็นสิ่งที่ต้องกระทำ แต่เหตุไฉนไม่รับพ่อแม่มาอยู่ด้วยเล่า ทางหนึ่งเจ้าได้ดูแลปรนนิบัติพ่อแม่อย่างเต็มที่ อีกทางหนึ่งก็อาศัยโอกาสนี้ส่งเสริมพี่น้องคนอื่นๆ เพราะเหตุใดเรื่องที่นำมาซึ่งความผาสุกเช่นนี้จึงไม่มีใครอยากทำ คนส่วนใหญ่มักผิดพลาดในข้อนี้โดยเฉพาะลูกผู้ชาย แม้แต่ลูกสาวก็เช่นกัน เจ้าได้แสดงความเคารพนบนอบต่อพ่อแม่ของเจ้าและพ่อแม่ของสามีด้วยความจริงใจหรือไม่?? พวกเจ้าได้แสดงสีหน้าที่ยิ้มแย้มต่อท่านบ้างไหม พ่อแม่ชอบกินอะไรพวกเจ้ารู้บ้างไหม เคยยกอาหารให้ท่านรับประทานด้วยมือของตัวเองหรือไม่?? หรือว่าจำใจทำ หน้าตาจึงบูดบึ้งบัวหลวงแดง ลูกชายหญิงที่ยังไม่แต่งงาน แต่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านเลิกงานกลับถึงบ้านก็อ่อนเพลีย เจอหน้าพ่อแม่ก็ทำเป็นหงุดหงิด พ่อแม่ไม่รู้จะวางตัวอย่างไร นั่งรอกินอย่างเดียว กินเสร็จถ้วยชามวางทิ้ง หันหลังเดินเข้าห้อง ไม่คิดที่จะแบ่งเบางานที่บ้านบ้างเลยหรือ?? ลองคิดดูว่าตอนที่มารดาให้กำเนิดให้เจ้า เป็นวันที่แม่นั้นต้องรับความเจ็บปวดแสนสาหัส ส่วนเจ้านั้นก็รู้แต่เพียงว่าเมื่อไหร่จะถึงวันเกิดจะได้นัดเพื่อนๆไปเลี้ยงฉลอง แแล้วสิ่งเหล่านี้พวกเจ้าเคยคิดหรือไม่ พ่อแม่กำลังนอนป่วยเจ้าก็ไม่รู้ ไม่เคยถามไถ่ เอาพ่อแม่ทิ้งไว้ในบ้านนอนจมโรค ต้องการให้เจ้าอยู่เคียงข้าง แต่เจ้ากลับเบื่อหน่ายไม่คิดที่จะเหลียวแล ลูกบางคนแม้ว่าจะเคยเสียสละออกไปช่วยงานธรรม มีจิตมุ่งมั่นศรัทธาอยากตั้งปณิธานเจแต่พ่อแม่ไม่อนุญาต ในขณะนั้น พวกเจ้าเคยกลับมาคิดบ้างไหมว่า สิ่งใดที่เจ้ายังไม่ได้ทำหน้าที่ของลูกที่ดี ยังไม่เปลี่ยนแปลงนิสัยอารมณ์ ดังนั้น จำทำให้การส่งเสริมธรรมะในครัวเรือนเป็นไปได้ยาก  ลูกสาวที่แต่งงานออกเรือนไปแล้ว พึงรู้ว่าการสร้างบุญกุศลสามารถปกแผ่ไปถึงครอบครัวของตนและครอบครัวสามีด้วย หวังว่าศิษย์น้องทั้งหลายจะใช้ช่วงเวลาที่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่หมั่นสร้างสมบุญกุศลไว้ให้มากๆ ไม่ใช่รอจนท่านเสียชีวิตแล้วจึงนิมนต์พระมาสวดอุทิศบุญกุศลให้กับท่าน หากพ่อแม่เสียชีวิตไปก่อนและยังไม่ได้รับวิถีธรรมก็จะต้องสร้างบุญกุศลอุทิศให้ท่านและฉุดช่วยดวงทวี้ตตี้นายวิญญาณของพ่อแม่ การบำเพ็ญธรรมทั้งทางโลกและทางธรรมควบคู่กันไปไม่ใช่ง่าย ในทางโลกเจ้าก็ทำหน้าที่ของเจ้าให้ดี ในขณะเดียวกันก็ยังดำเนินงานในทางธรรมไม่ให้บกพร่อง เมื่อเป็นเช่นนี้พวกเจ้าจะต้องมีจิตใจที่หนักแน่นมั่นคงจึงจะสมบูรณ์ทั้งทางโลกและทางธรรม หากสามารถนำธรรมะไปใช้ในครัวเรือน ครอบครัวของเจ้าก็จะมีแต่ความผาสุก อิ่มเอิบไปด้วยพลังธรรม เป็นครอบครัวแห่งเทพเซียนซึ่งสามารถฉุดช่วยทั้งตนเองและผู้อื่น แปรเปลี่ยนโกลแห่งทะเลทุกข์ให้กลายเป็นแดนสุขาวดี จงปฏิบัติหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่นี้ให้ดีต่อไป…… ^_____^

ไม่มีความคิดเห็น: