วันนี้พวกเราผู้บำเพ็ญธรรมต้องรู้จักพอจึงมีความสุข บิดามารดายังมีชีวิตอยู่สุขภาพแข็งแรงดี พี่น้องอยู่กันพร้อมหน้าต้องรู้สำนึกคุณ บางคนเกิดมาก็กำพร้าบิดามารดา บางคนเกิดมาพิการแขนขา บางคนพี่น้องไม่ปรองดอง หากเจ้ามีครอบครัวที่สมบูรณ์ เจ้าต้องรู้สำนึกคุณ ในยามทุกข์แม้ทุกข์บ้างสักเล็กน้อย แต่คนในครอบครัวสามารถอยู่ร่วมกันอย่างพร้อมหน้าอย่างปลอดภัยราบรื่นนั่นคือบุญวาสนา และยิ่งกว่านั้น คนในครอบครัวสามารถบำเพ็ญธรรมปฏิบัติธรรมร่วมกันนั่นคือโชควาสนาอันยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกโดยแท้ อาจารย์ออกมาเรียกร้องพวกเจ้าบำเพ็ญธรรมต้องบำเพ็ญพร้อมทั้งครอบครัว ไม่ว่าอย่างไรก็ตามต้องส่งเสริมพี่น้องขึ้นมาให้ได้ อาจารย์ปรารถนาให้พวกเจ้าร่วมใจร่วมคุณธรรม ทุกคนล้วนเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกัน เป็นบุตรพระแม่องค์ธรรมเดียวกัน ทุกคนต่างเป็นพี่น้องกัน ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เพื่อนร่วมบำเพ็ญมีความลำบาก เราต้องให้ความเอาใจใส่ ต้องส่งเสริมให้กำลัง ต้องช่วยเหลือคำชูกัน ในวันนี้พวกเรามีบุญสัมพันธ์ได้ร่วมบำเพ็ญบนเรือธรรมลำเดียวกัน ต้องรักษาบุญสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นบุญสัมพันธ์ที่ดี หรือบุญสัมพันธ์ที่ไม่ดี ล้วนต้องให้บุญสัมพันธ์นั้นกลมกลืนทั้งหมดต่างหลอมรวมให้กลมกลืน ผู้อื่นทำไม่ดีต่อเราไม่เป็นไร เราใช้คุณธรรมตอบสนองความแค้น การบำเพ็ญธรรมก่อนอื่นต้องปลูกฝังคุณธรรม มีใจกว้างใหญ่ดุจดั่งมหาสมุทร เข้าใจไหม?? ใจคอต้องกว้างขวาง อุทรต้องกว้างใหญ่ ดังคำกล่าวว่า" “ในอุทรของอัครมหาเสนาบดีถ่อเรือได้”นำพาผู้ที่ตามมาข้างหลังควรใช้คุณธรรม ทำให้คนทั้งหลายยอมรับ
รักกันไว้เถิด
ชีวิตของคนเรานั้นอยู่ได้เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ ที่จะเกิดมาใช้ชีวิตร่วมกัน หากไม่ว่าเรื่องราวใดก็ใช้แต่อารมณ์ เป็นสิ่งที่ดีไหม? ต่อพี่น้องการเสียสละคือ เคารพผู้เป็นพี่และเมตตาผู้เป็นน้อง ถ้าพี่น้องแล้วไม่รัก ศิษย์จเป็นพี่น้องไปกันทำไมห้าสิบปีร้อยปี ใช่หรือไม่?? เกิดมาเป็นพี่น้องนับแต่วันแรกก็ต้องเป็นไปจนชั่วชีวิต ตอนนี้ไม่รู้จักดู
คิดถึงกันบ้างสิ
สิ่งล้ำค่าที่สุดในความเป็นพี่น้องคืออะไร??? คือความปรองดองกันใช่ไหม….แต่น่าเสียดายที่ความรักใคร่ปรองนี้ได้สูญหายไปแล้ว ปัจจุบันเห็นแต่พี่น้องทะเลาะวิวาทกัน พ่อแม่ทิ้งทรัพย์สินมรดกไว้ให้เพื่อพวกเจ้ามีชีวิตที่ดีขึ้นในภายภาคหน้า ดังนั้น จึงยอมทุ่มเทเหนื่อยยากมาทั้งชีวิตเพื่อให้ลูกหลานไม่ต้องลำบากอีกต่อไป แต่คนในปัจจุบันไม่เข้าใจ แก่งแย่งกันในหมู่พี่น้อง ทำให้ครอบครัวแตกแยก เห็นแล้วน่าเวทนาจริงๆ เคยคิดบ้างไหมว่า เจ้ามาสถานธรรมทำไมพี่น้องจึงต่อต้านอาจเป็นเพราะว่าสิ่งที่เจ้าทำลงไปนั้นยังไม่ดีพอ แต่พวกเจ้าก็มักจะคิดว่าพี่น้องของเราไม่เข้าใจธรรมะ จึงไม่สนใจพวกเขาใช่หรือไม่ แล้วทำไมพวกเขาจึงต่อต้านการมาสถานธรรมของพวกเจ้าด้วย เจ้าต้องคิดดูให้ดีทุกเรื่องราวย่อมจะมีสาเหตุ แม้ว่าเจ้าจะรู้ว่าธรรมะนี้ดีคิดจะฉุดช่วยพวกเขา แต่การกระทำของเจ้าทำให้พวกเขารู้สึกเห็นแต่ความบกพร่อง นั่นเป็นปัญหาของตัวเจ้าเอง ไม่ใช่ปัญหาของเขา แม้ว่าเจ้าจะมีใจรักที่จะช่วยงานฟ้าปกโปรดเวไนย์แต่กลับทอดทิ้งญาติพี่น้องของตัวเอง ทำเช่นนี้ถูกต้องแล้วหรือ??? ดังนั้น พวกเจ้าจะต้องสานความสัมพันธ์ เมื่อถึงเทศกาลต่างๆก็โทรศัพท์ถามไถ่ทุกข์สุข ส่งของขวัญแทนความคิดถึง หรือกลับไปเยี่ยมเยือนสนทนาธรรมกับเขาบ้าง ให้พวกเขาค่อยๆเปิดใจยอมรับเจ้า เข้าใจไหม??พี่น้องสมัยนี้ไม่มีเยื่อใยผูกพันธ์เหมือนสมัยก่อนแล้วใช่ไหม ในสังคมยุคนี้ทุกคนก็มัวแต่วุ่นวายอยู่กับการทำงาน และนับตั้งแต่เจ้าเข้าสู่อาณาจักรธรรมก็ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรม บรรยธรรมยิ่งห่างไกลจากเครื่อญาติพี่น้อง ถึงตอนนี้แล้วเจ้าจะจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างพี่น้องได้อย่างไรจะทำอย่างไรจึงจะหวลคืนบรรยากาศเก่าๆ ทะเลาะกันบ้าง ชกต่อยกันบ้าง แล้วจบเรื่อง แต่ยังคงรักกันเหมือนเดิม จะย้อนกลับไปสู่จิตใจเหมือนสมัยเด็กได้อย่างไร?? จะต้องใช้จิตใจแห่งการบำเพ็ญใช่ไหม จะต้องบำเพ็ญจิตญาณเดิมเพื่อแก้ไขความทะเยอทะยานอยาก ความคิดฟุ้งซ่านของตนเองให้สามารถเป็นผู้มีธรรมะ ใช้การกระทำแสดงออกซึ่งธรรมถูกต้องไหม เมื่อใช้การกระทำที่แสดงออกซึ่งธรรมแล้ว ขอเพียงเจ้าทำให้พวกเขาได้ประจักษ์ว่าผู้บำเพ็ญธรรมก็มิใช่เลวร้ายอะไร เขาก็จะค่อยๆคลายปมอคติลงได้ คิดดูสิว่า ปมอคติระหว่างพี่น้องทำไมมันจึงยังคงอยู่จนทุกวันนี้ นั่นเพราะว่าไม่สามารถแสดงออกซึ่งธรรม ในเมื่อไม่สามาร
ถแสดงออกซึ่งธรรมก็เท่ากับทำลายภาพพจน์ของธรรมใช่ไหม พวกเราก็ไม่คู่ควรที่จะพูดถึงการบำเพ็ญธรรมถูกต้องไหม??? หากพี่น้องได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อยู่ร่วมกันอย่างปรองดองและกลมเกลียว พ่อแม่ของพวกเจ้าก็จะยิ่งมีความสุข วันเวลาผ่านไปอย่างมีความสุขและราบรื่น แล้วจะมีความทุกข์กังวลใดอีกเล่า ชีวิตของคนนั้นจะมีความสุขหรือไม่มีความสุขมาจากในบ้านของตนเอง ถ้าหากว่าเรานั้นรู้จักทำให้ตนเองมีความสุขและเรารู้จักมอบความสุขให้กับคนอื่น และมอบความสุขให้กับคนในบ้านของเราต่อพ่อแม่เราก็ต้องกตัญญู ต่อพี่น้องต้องปรองดอง ต่อญาติพี่น้องต้องเคารพ หากว่าคนทั้งบ้านไม่มีน้ำใจมีความสุขไม่ได้ เพราะฉะนั้น คำว่าน้ำใจ นั้นต้องให้คนทุกคน อยากมีบ้านที่มีความสุขไหม ก็จงทำตัวเราให้มีความสุขและเป็นคนมีน้ำใจมากๆ
แม่บ่านยุคใหม่
คนในบ้านมีความรักใคร่กลมเกลียวกัน ครอบครัวนี้ก็จะมีแต่ความรุ่งโรจน์ คนในบ้านแตกสามมัคคีครอบครัวนั้นก็จะมีแต่ทะเลาะวิวาท ดังนั้น ครอบครัวจะต้องรักใคร่กลมเกลียวกันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด คุณแม่สมัยนี้รักสวยรักงาม เพราะความรักสวยรักงามนี้เองจึงทำให้รังเกียจความสกปรก ไม่ยอมออกไปจ่ายตลาด ซื้อแต่ข้าวแกงหรืออาหารปรุงสำเร็จ ทั้งยังขี้เกียจทำอาหารจนกลายเป็นแฟชั่น วันทั้งวันส่องแต่กระจกกลัวไม่สวย ไม่ยอมให้มือเปื้อนคราบน้ำมันควันไฟแม้แต่น้อย ทำไมพวกเจ้าไม่คิดบ้างว่าการสัมผัสคราบน้ำมันและควันไฟเช่นนี้นานวันเข้าก็สามารถบำเพ็ญสำเร็จได้เช่นกัน ผู้คนต่างร้องเพลงสดุดีถึงความยิ่งใหญ่ของแม่ ในเนื้อเพลงสรรเสริญถึงความยิ่งใหญ่ในเรื่องการจัดการงานบ้าน หากว่าเจ้าเอาแต่หาซื้อข้าวแกงหรืออาหารกล่องทั้งสามมื้อ แล้วจะมีความยิ่งใหญ่อันใดให้กล่าวถึงเล่า ดังนั้น พวกเจ้าจะต้องเข้าใจบทบาทหน้าที่ของตน อย่าได้กล่าวโทษฟ้าดิน เวลาทำอาหารก็ร้องเพลงของพระอาจารย์ไปด้วยจะได้อิ่มอกอิ่มใจ อาหารที่ทำออกมาก็จะบ่งบอกถึงความรักความเอาใจใส่ของแม่อีกด้วย ทุกคนในครอบครัวร่วมรับประทานอาหารพร้อมหน้ากันอย่างมีความสุข ใจเบิกบาน กายก็จะแข้งแรงใช่หรือไม่
…………………………………………จิตเมตตา มีหรือไม่………………....
จิตเมตตามีกันทุกคน แล้วจะต้องเมตตาใครก่อน (ตัวเอง) ยิ่งเมตตาตัวเองเท่าไรยิ่งเป็นการดีใช่หรือไม่ แล้วเรามีจิตเมตตาต่อคนอื่นที่อยู่รอบข้างบ้างไหม คนในครอบครัวของเจ้า เจ้าเคยคิดที่จะฉุดช่วยเขาบ้างไหม ต้องเริ่มจากคนมนครอบครัวก่อน เราปฏิบัติอยู่คนเดียว คนในครอบครัวไม่เข้าใจว่าเราปฏิบัติอะไรเป็นอย่างนี้ใช่ไหม?? เจ้าจะฉุดช่วยคนในครอบครัวแล้วจะฉุดช่วยอย่างไร จะต้องช่วยด้วยธรรมะให้เขารู้ตื่น ไม่ใช่ช่วยด้วยทรัพย์สินเงินทอง เมตตาให้เขามีกินมีใช้อำนวยความสะดวก แต่เราไม่ได้ให้อาหารทางใจกับเขาเลย ให้แต่อาหารทางกายเป็นอย่างนี้ใช่ไหม?? หากเป็นเช่นนี้ก็กลายเป็นความผิดบาป!!!!!!! ขอเตือนคนเป็นพ่อเป็นแม่ เรื่องคู่ครองของลูกขอให้เขาเลือกและตัดสินใจเอง อย่าไปออกหรือยุ่งเกี่ยวกับเขามากเกินไปเมื่อลูกยังเล็กควรสอนให้ลูกรู้ว่า สิ่งไหนควรไม่ควร โตขึ้นจึงไม่กระทำผิดพลาดโดยเฉพาะเรื่องคู่ครองคนเป็นพ่อแม่ต้องรู้จักปล่อยวางในจุดนี้เสียบ้าง
………………………………………..นิทานเรื่องเศรษฐีสอนลูก……………………………………..
![]() |
บางอย่างที่เงินไม่สามารถซื้อได้คือ “ความผาสุก” ความสุขที่แท้จริงเริ่มต้นที่ครอบครัว ความอบอุ่นในครอบครัวคือรากฐานแห่งความผาสุกและเปี่ยมล้นไปด้วยบุญวาสนา