ยุคข้าวยากหมากแพง บ้านเมืองไม่สงบ ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ความรู้สึกค่านิยมของคนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเรื่อง "เงิน" เป็นหลักในสังคมทุนนิยมแบบนี้ ยามไม่มีเงินก็คงลำบากเมื่อเงินมีใช้ไม่พอต้องหยิบยืมจนเป็น "หนี้" คืออุปสรรคในชีวิตของคนส่วนใหญ่เวลาที่คนเราเป็นหนี้ เชื่อว่าจำนวนไม่น้อยไม่ได้คิดว่าตนเองเป็นหนี้เฉพาะตัวหรือด้านเงินทอง แต่ "ใจ" ก็เป็นหนี้ไปด้วย "ใจเป็นหนี้" ในความหมายของตน การที่เอาอารมณ์ความรู้สึกเข้าไปผูกกับการอยู่ในสถานะการเป็นลูกหนี้เป็นสิ่งทำให้เหมือนไม่มีอิสระในชีวิต ใครสักคนมีอำนาจในการจัดการเราได้เพราะไปเอาของของเขามา จึงไม่มีความเป็นตัวของตัวเองมากนักหลายคนพาลนอนก่ายหน้าผาก คิดมาก จนเป็นคนวิตกกังวล หรือโรคซึมเศร้าถาม
ทำงานหาเงินชดใช้หนี้ไปตามกาลเวลาที่กำหนดไว้ ป่วยการที่จะไปทุกข์ใจกับเรื่องการเป็นหนี้เพราะทุกข์ไป เงินก็ไม่งอกเงยขึ้นมาให้ฟรีๆ อาจยิ่งทำให้หมดแรงในการหาเงินมาใช้หนี้เสียอีกยิ่งแย่เข้าไปใหญ่อีกประเภท พวกทองไม่รู้ร้อน อยากได้ของเขา พอได้มาก็ไม่คิดว่าจะต้องรับผิดชอบอะไรคิดเข้าข้างตัวเองว่าเงินทองแบ่งกันใช้ แม้ตนเองไม่ได้หามาเลยไม่รู้สึกต้องจ่ายคืนขอหยิบยืม แต่ไม่คืน คนจำพวกนี้น่ากลัว และถือว่าเป็นคนไม่ดีรับมือกับการเป็นหนี้อย่างไรคำแนะนำนี้อาจใช้ได้สำหรับหลายคน แต่มีอีกหลายคนไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ถ้ามุ่งประเด็นที่ "ใจ" ของเรา อยู่อย่างใจสงบ อิสระจากการถูกมัดจากเรื่องภายนอกคิดว่าทุกอย่างที่เป็นเงื่อนไขที่เกิดขึ้น ควรปฏิบัติดังนี้
1. มองโลกในแง่ดีให้มาก คิดว่าการที่ติดหนี้สิน เพื่อการพัฒนาพิสูจน์ความสามารถในการบริหารจัดการเงิน แต่ก็ห้ามคิดว่าพัฒนามากเกินไปจนกลายเป็นฟุ้งเฟ้อไม่รู้จักพอ ที่แย่คือคิดเอาเงินในอนาคตมาใช้ โ ดยไม่รู้จักบริหารจัดการให้ดี อย่างนี้ก็เป็นหนี้หัวโต
2. อย่าเป็นคนรักษาหน้ามาก บางคนมองการเป็นหนี้คนอื่น เป็นการบอกว่าเราด้อยไม่มีเงิน ไม่มีทรัพย์สมบัติ ทนไม่ได้ที่ต้องเป็นหนี้ ก็เลยไม่กล้าลงทุนทำอะไรหรือยอมไปหาเงินมาจากที่อื่นๆ ที่ไม่เหมาะสมแทน เช่น เล่นการพนัน เสี่ยงโชค
ยอมขายตัวขายศักดิ์ศรีแลกเงิน แย่กว่าการเป็นหนี้สถาบันการเงินเสียอีก
3. มองว่าการมีหนี้ก็เพื่อการฝึกควบคุมตนเองและฝึกการบริหารจัดการเรื่องเงินเรื่องทองให้ได้ ถ้าทำได้ ฝ่าฟัน
ได้จะเป็นผู้มีประสบการณ์แกร่งขึ้น
4. บอกตัวเองเสมอว่าคนที่เครียดควรเป็นเจ้าหนี้อย่ามองเพียงแค่ว่าเจ้าหนี้มีความสุขจากการได้ดอกเบี้ยเงินกู้อย่างเดียว
มีเจ้าหนี้จำนวนมากก็ขาดทุนไปไม่น้อย ซึ่งควรจะช่วยกันทั้งลูกหนี้และเจ้าหนี้เพื่อให้เกิดความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย อย่าเอาเปรียบกันดีที่สุด
5. เผื่อใจสำหรับการใช้หนี้ไม่ได้ อาจต้องยอมขายหรือเสียอะไรบางอย่างบ้างเพื่อให้สามารถบริหารจัดการหนี้ได้ อย่าเป็นคนที่ใช้ชีวิตแบบยึดติดกับวัตถุมากเกินไปเงินทองของนอกกายไม่ตายก็หาใหม่ได้ อย่าไปปักใจอยู่กับคุณค่าของวัตถุมากเกินไปเพราะคุณค่าที่เกิดขึ้นเกิดจากใจของเราต่างหากที่ไปสร้างเงื่อนไขทางความคิดตัวเอง
6. ผู้ไม่มีทรัพย์สินอะไรให้ขายชดใช้หนี้ อย่าลืม"ทรัพย์สินทางปัญญา"ต้องพยายามหาออกมาใช้ให้มากที่สุดเชื่อว่าไม่มีทรัพย์ใดจะมีค่ามากไปกว่าปัญญาของเราเอง
7. คิดหาทางเลือกอื่นๆ ไว้เมื่อหนี้มีปัญหา อย่าคิดสั้นๆอย่าลืมว่าปัญหามักจะมีทางออกสำหรับผู้
8. การเป็นหนี้ในแง่ดีคือว่าคุณยังเป็นคนที่มีเครดิตอยู่ อย่างไรก็ตามถ้าขอใครแล้วเขาไม่ให้ยืมก็กลับมาทบทวนบอกตัวเองว่า"ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"อย่าไปหวังใครจะมาช่วยเรา ถ้าเรายังไม่เริ่มต้นคิดช่วยเหลือตนเอง
9. ฝึกตนเองมุ่งมั่นในการทำงานไปเรื่อยๆไม่ต้องคิดเรื่องการเป็นหนี้อยู่ในสมองให้มากนัก มีความรับผิดชอบต่อชีวิตและหนี้สินเมื่อนั้นจะรู้สึกมีความสุขมาก และจะภูมิใจที่เราเป็นคนที่มีความรับผิดชอบที่ดี ให้ชมตัวเองบ่อยๆได้
10. ถ้าโดนเจ้าหนี้ทวงอยู่เรื่อยๆ ใช้วิชาการเจรจาต่อรองแสดงความจริงใจว่าจะผ่อนส่งให้ ถ้าเขาอยากได้มากกว่าที่เราสามารถให้ได้ก็ตอบไปตรงๆ ว่าไม่สามารถทำได้ในเวลานั้น (แต่จะพยายามหามาให้)เพราะเขาเองก็กลัวจะไม่ได้เหมือนกัน ฉะนั้น หาข้อตกลงรอมชอมดีที่สุดอย่าเครียดไปก่อนเพราะกลัวว่าจะทนต่อการถูกทวงไม่ไหวอย่าลืมว่าเจ้าหนี้บางรายเป็นพวกจู้จี้จุกจิก ย้ำคิดย้ำทำ ซึ่งควรเห็นใจเขาเพราะเงินของใคร ก็หวงห่วงเป็นธรรมดา
11. คนที่ค่อนข้างเครียดคิดมากเรื่องการเป็นหนี้ให้สำรวจตนเองว่าเป็นคนวิตกกังวลเกินไปหรือไม่ ส่งผลต่อชีวิตอย่างไร
เช่น ทำให้ขยันขึ้น ทำให้หมดเรี่ยวแรงในการต่อสู้กับปัญหากันไหมถ้าเป็นประเด็นหลังอาจต้องรับการบำบัดรักษาทางด้านสุขภาพจิตจะดีกว่าหากปล่อยไว้ ชีวิตจะค่อยๆ หมดพลังในการดำเนินชีวิตในที่สุด "ผมคิดว่าไม่จำเป็นอย่ามีหนี้ดีที่สุด หากต้องมีขอให้มีหนี้สิน เพื่อเป็นทรัพย์สินที่มั่นคงในอนาคตมากกว่าหนี้สูญ เช่น หนี้จากการฟุ่มเฟือยใช้จ่ายในสิ่งที่ไร้สาระ หาความสุขที่มากเกินพอดี การเล่นการพนัน ติดยาเสพติด เป็นต้น ดูๆ ไปก็น่าเหนื่อยใจไม่น้อยขอเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังมีหนี้อยู่ด้วย ว่าความพยายาม อดทนอยู่ที่ไหนหนี้ทางใจก็จะไม่อยู่ที่นั่นอีกต่อไป"แต่ถ้าไม่สามารถจัดการได้ คุณอาจจะ "ป่วย" เพราะหนี้ได้เช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น