ธรรมะที่แท้จริงแล้วนั้นมีอยู่ทุกที่ ทุกเวลา เพราะธรรมะคือธรรมชาติสมาธิเกิดขึ้นได้โดยที่เราไม่ต้องนั่งหลับตา วิปัสสนาไม่ได้เกิดจากการแสวงหาสิ่งเหล่านี้มีอยู่แล้วในตัวเรา การปฏิบัติธรรมที่แท้จริงนั้นคือความเรียบง่ายในการดำเนินชีวิต การใช้ชีวิตอย่างมีสติ คิด พูดและทำในสิ่งที่ดีงามตามศีลธรรม โดยไม่ต้องให้มีกฏเกณฑ์หรือข้อบังคับทางกฏหมายใดๆมากำหนดใจของเรา สิ่งที่เราควรรู้ก็รู้ สิ่งไหนที่ไม่จำเป็นต้องรู้ก็ไม่ควรเสียเวลาไปหาคำตอบเพราะว่าในคำตอบนั้นถึงรู้มาก็ไม่มีข้อยุติและไม่ได้ช่วยให้เราเข้าใจในทุกข์ของเรา สิ่งที่เราควรรู้มากที่สุดคือการเกิดทุกข์ หนทางของการดับทกุข์และการอยู่เหนือทุกข์ทั้งปวง การรู้จักตนเองและการรู้จักหน้าที่จะช่วยให้เรารู้จักกับความทุกข์และรู้ว่าชีวิตของเราควรดำเนินไปทางไหนแค่เราเข้าใจและยอมรับ การปฏิบัติธรรมจึงไม่ใช่การมุ่งแสวงหาปัญญาเพราะปัญญานี้มีอยู่แล้วในตัวของทุกคนเพียงแต่ถูกบังไปด้วยกิเลส ตัณหาและอวิชชา เราเพียงแค่เรียนรู้ว่าจะนำสิ่งของที่มาบังความคิดของเราออกไปได้อย่างไรเพื่อให้จิตหรือความคิดของเราทำงานได้อย่างเต็มที่ สภาวะการรู้ตื่นทางจิตเกิดได้แม้เพียงเสี้ยววินาทีแต่มันคือประสบการณ์น่ายินดียิ่งที่ทำให้เราค้นพบตัวตนที่ซ่อนอยู่ภายในตัวเราดังนั้นความรู้แจ้งจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนมีอยู่แล้วแต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสัมผัสมันได้อย่างถ่องแท้สิ่งนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะกับผู้ที่คร่ำเคร่งกับการค้นหาหนทางหากแต่บางทีเราอาจพบสิ่งนี้ได้ในช่วงเวลาที่ผ่อนคลายและปราศจากความกังวลใดๆ……… ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น